2,213 สุดยอดตัวแทนประกันชีวิตพิชิตรางวัลตัวแทนคุณภาพดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2565

2,213 สุดยอดตัวแทนประกันชีวิตพิชิตรางวัลตัวแทนคุณภาพดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2565

สมาคมประกันชีวิตไทย จัดมอบรางวัล“ตัวแทนคุณภาพดีเด่นแห่งชาติ ครั้งที่ 39 ประจำปี 2565” หรือ
39th THAILAND NATIONAL QUALITY AWARDS (39th TNQA) เพื่อเชิดชูเกียรติตัวแทนประกันชีวิตที่มีคุณภาพดีเด่น สามารถผลิตผลงานได้ตามเกณฑ์ จำนวน 2,213 ราย ณ ห้องคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทารา
แกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2565

นางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ อุปนายกฝ่ายการตลาด สมาคมประกันชีวิตไทย ในฐานะประธานการจัดงานพิธีมอบรางวัลตัวแทนคุณภาพดีเด่นแห่งชาติ ครั้งที่ 39  ประจำปี 2565 (THAILAND NATIONAL QUALITY AWARDS (39th TNQA) เปิดเผยว่า สมาคมประกันชีวิตไทยได้รับเกียรติจากนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมาเป็นประธานมอบรางวัลโล่ตัวแทนคุณภาพดีเด่นกิตติคุณ20 ปี และ 15 ปี พร้อมด้วย ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ร่วมเป็นเกียรติในการมอบรางวัลโล่ตัวแทนคุณภาพดีเด่นกิตติคุณ 10 ปีพร้อมด้วยรางวัลโล่เกียรติคุณ โดยมีนายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย ร่วมกล่าวแสดงความยินดีต่อผู้ได้รับรางวัลจำนวน 2,213 ราย ทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าวมีมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 39 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพและพัฒนาขีดความสามารถในการทำงานของตัวแทนประกันชีวิตเพื่อให้ผู้เอาประกันชีวิตได้รับการบริการที่ดี

สำหรับตัวแทนประกันชีวิตที่ได้รับรางวัลจะต้องผ่านเกณฑ์การพิจารณาของสมาคมประกันชีวิตไทย
ซึ่งประกอบด้วย จะต้องขายประกันชีวิตแบบรายบุคคลรายใหม่ เป็นประเภทสามัญหรือประเภทอุตสาหกรรมไม่ต่ำกว่าปีละ 30 ราย จำนวนเงินเอาประกันภัยไม่ต่ำกว่าปีละสี่ล้านห้าแสนบาท 2 ปีต่อเนื่องกัน และจะต้องมีระยะเวลาที่กรมธรรม์ประกันชีวิตมีผลบังคับ 14 เดือนหรือเกินกว่า โดยกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ขายได้ในปีที่ 1 นั้นจะต้องมีอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ประกันชีวิตไว้ได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ทั้งด้านจำนวนรายและจำนวนเงินเอาประกันภัย ตลอดจนมีความภักดีต่อองค์กรต้นสังกัด ซึ่งปีนี้มีผู้ได้รับรางวัลทั้งสิ้น 2,213 ราย จาก 15 บริษัทสมาชิก โดยรางวัลเกียรติยศสูงสุดคือ รางวัลโล่ตัวแทนคุณภาพดีเด่นกิตติคุณ 20 ปี พร้อมเกียรติบัตร ซึ่งปีนี้มีผู้พิชิตรางวัลนี้ได้ถึง
3 ราย ได้แก่ คุณณัฐชานันท์ นันทพงศ์โภคิน บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) , คุณพัณณ์นิภา  อัครพันธวงศ์ และ คุณโอภาส เคนวัน บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) รางวัลโล่ตัวแทนคุณภาพดีเด่นกิตติคุณ 15 ปี พร้อมเกียรติบัตร จำนวน 16 ราย รางวัลโล่ตัวแทนคุณภาพดีเด่นกิตติคุณ 10 ปี พร้อมเกียรติบัตร จำนวน 28 ราย รางวัลโล่เกียรติคุณพร้อมเกียรติบัตร จำนวน 69 ราย และรางวัลเกียรติบัตรจำนวน 281 ราย โดยมีตัวแทนประกันชีวิตที่มีผลงานผ่านเกณฑ์ แยกรายบริษัทประกันชีวิตดังนี้

1. บริษัท เอไอเอ จำกัด จำนวน   1,197 ราย

2. บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน      196 ราย

3. บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน      185 ราย

4. บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน     146 ราย

5. บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน      129 ราย

6. บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน      81 ราย

7. บริษัท ชับบ์ ไลฟ์ แอสชัวรันซ์ จำกัด (มหาชน) จำนวน      62 ราย

8. บริษัท โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จำนวน      62 ราย

9. บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน      61 ราย

10. บริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน     40 ราย

11. บริษัท อาคเนย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน      30 ราย

12. บริษัท ซัมซุง ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน      14 ราย

13. บริษัท ฟิลลิปประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน       6 ราย

14. บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จำนวน       3 ราย

15. บริษัท เจนเนอราลี่ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) จำนวน       1 ราย

นางนุสรา กล่าวเพิ่มเติมว่า “ตัวแทนประกันชีวิตนับเป็นฟันเฟืองสำคัญที่มีผลต่อการเติบโตของภาพรวมธุรกิจประกันชีวิต โดยเมื่อสิ้นปี 2564 ช่องทางตัวแทนประกันชีวิตยังคงเป็นช่องทางอันดับหนึ่งที่สามารถผลิตเบี้ยประกันภัยรับรวมได้ถึง 320,629 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนทางการตลาดที่สูงถึงร้อยละ 52.21 ซึ่งเบี้ยประกันภัยที่ปรากฎนั้นล้วนเกิดจากการทำงานที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพและความเป็นมืออาชีพ ที่นอกจากจะต้องมีทักษะประสบการณ์และความรู้ความสามารถในการทำงานตามภาระหน้าที่แล้ว ยังรวมถึงความสามารถในการทำให้ประชาชนเกิดความตระหนักและเข้าใจถึงความสำคัญของการมีประกันชีวิตและหันมาวางแผนทางการเงินโดยใช้การประกันชีวิตเพื่อปกป้องความเสี่ยงในทุกจังหวะของชีวิต แม้ว่าในปัจจุบันระบบดิจิทัลจะเข้ามามีบทบาทกับธุรกิจประกันชีวิตมากเพียงใด แต่ธุรกิจประกันชีวิตยังจำเป็นต้องอาศัยคนกลางที่จะมาเป็นผู้อธิบายเงื่อนไขและเอกสิทธิ์ตามกรมธรรม์ให้ลูกค้าเข้าใจได้ง่ายขึ้น พร้อมคอยอำนวยความสะดวก ส่งมอบการบริการที่เป็นเลิศเมื่อลูกค้าต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจประกันชีวิตที่จะทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นและไว้วางใจ”

ข่าวเกี่ยวข้อง